5 ยอดเยี่ยมสถานที่เที่ยวในเวียดนามที่คุณจะต้องไป อัพเดท 2018

เมื่อเอ่ยถึงเวียดนามใครๆก็มักจะนึกถึง โฮจิมินห์ เมืองหลวงทางตอนใต้ แต่ว่ารู้ไหมมีสถานที่เที่ยวใหม่ๆน่าดึงดูดอีกเพียบเลยในเวียดนามที่ช่วงนี้กำลังเป็นกระแสอย่างยิ่งๆที่คุณไปเวียดนามจะต้องไม่พลาด พวกเรามาอัพเดทกันวันท่องเที่ยวเวียดนามทั้งทีจะต้องสุดๆ5 สถานที่ที่ใดกันบ้าง เริ่มกันเลย

1. ท่องเที่ยวบาน่าฮิลล์ ดานัง (Bana Hill, Danang)
บานาฮิลล์ เป็น โฮเต็ล บนยอดเขา อยู่ห่างจากเมืองดานังราวๆ 40 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางราวๆ 40-50 นาที ส่วนประวัติความเป็นมา เทือกเขาบานา เคยเป็นสถานที่ท่องเที่ยวตากอากาศมาตั้งแต่ยุคสงครามโลกครั้งที่ 1 โดยด้านบนเป็นบ้านพักและก็โรงแรมของชาวฝรั่งเศสสมัยเป็นเจ้าอาณานิคมตั้งแต่ปี 1919 หลังการรบชาวฝรั่งเศสพ่ายแพ้กลับประเทศไป บานาฮิลล์ถูกทิ้งร้างอยู่นับเป็นเวลาหลายปี กระทั่งถูกกลับมาบูรณะเป็นเมืองท่องเที่ยวอีกทีในปี 2009 ซึ่งมีการสร้างตะกร้าลอยฟ้า 5,801 เมตร ที่ใช้เวลาถึง 50 นาทีสำหรับในการนั่งกระเช้าจากด้านล่างขึ้นไปข้างบน รายจ่ายสำหรับการก่อสร้างเคเบิลคาร์ช่วงแรกมีมูลค่า 17.2 ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา แล้วก็ช่วงที่สร้างต่อเพิ่มไปถึงยอดดอย มีมูลค่า 5.7 ล้านเหรียญสหรัฐฯ

ทั้งนี้ บานาฮิลล์ ถูกสร้างขึ้นตามมาตรฐานยุโรปโดยบริษัทที่มีชื่อจากออสเตรเลีย เครื่องมือและเครื่องจักรนำเข้าจากยุโรป ตลอดทางประกอบไปด้วยเสา 24 ต้น มีทั้งหมด 94 เคบิน ตะกร้ามีแบบเปิดเตียนโล่งโอเพ่นแอร์กับแบบห้องกระจก แต่ละเคบินบรรทุกผู้โดยสารได้ 10 คน ภายในหนึ่งชั่วโมงสามารถรองรับผู้โดยสารได้ถึง 1,500 คน

2.เที่ยวถ้ำฟองญา (Phong Nha Caves)
เวียดนาม เป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าดึงดูดที่มีนานาประการ ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ และก็ยังรวมทั้งสถานที่สำหรับท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีความงามแล้วก็น่ามาเยือนมากมายแห่งหนึ่งของโลก และวันนี้พวกเราจะขอแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวที่มีทั้งยังความงาม และก็ความตรึงใจ

โดยสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อของอุทยานแห่งชาติฟองญา-แก๋บ่างเป็นถ้ำฟองญา (Phong Nha Cave) ฯลฯเกิดของแม่น้ำชอน (Son River) ที่สะสมน้ำจากใต้ดินไหลรวมกันมาจากด้านในถ้ำ รวมทั้งได้รับการยินยอมรับจาก นักสำรวจถ้ำทั่วทั้งโลกว่า เป็นถ้ำอันดับต้นๆของโลก เพราะว่าเป็นเจ้าของสถิติถึง 4 รายการเป็นต้นว่า น้ำลอดยาวที่สุดในโลก, โถงถ้ำสูงที่สุด ยาวที่สุด แล้วก็กว้างที่สุด

"อุทยานแห่งชาติฟองญา-แก๋บ่าง" (Phong Nha-Ke Bang National Park) เป็นอีกหนึ่งเป้าหมายด้านการท่องเที่ยวที่น่ามาเยือนมากมายแห่งหนึ่งของประเทศเวียดนาม เป็นอุทยานแห่งชาติที่มีความสะดุดตาทางธรรมชาติแล้วก็ทางธรรีวิทยา ที่มีพัฒนาการมาตั้งแต่ยุคน้ำแข็ง (หรือราวๆ 400 ล้านปี) นั่นจึงทำให้อุทยานแห่งนี้มีทำเลที่ตั้งแบบหินปูนที่โบราณที่สุดในเอเซีย อุทยานแห่งชาติฟองญา-แก๋บ่าง ตั้งอยู่ในอำเภอโบ๊จะ (Bo Trach) และก็อำเภอไม่ญหวา (Minh Hoa) ในเขตจังหวัดกว๋างบิ่ญ (Quang Binh) แล้วก็ติดชายแดนประเทศลาว ห่างจากกรุงฮานอยมาตอนใต้ประมาณ 500 กิโล ภายในเขตสวนมีกรุ๊ปหินปูนมีขนาดพื้นที่ 857.54 ตารางกิโลเมตร สวนนี้โด่งดังในความสวยงามของถ้ำที่มีอยู่จำนวนมาก และก็ยังเป็นสถานที่ 1 ใน 2 ของโลกที่เป็นหินปูนที่มีสายธารใต้ดินขนาดใหญ่

3.เที่ยวอ่าวฮาลอง (Ha Long Bay)
ฮาลองเบย์ หรือ อ่าวฮาลอง คือสถานที่เที่ยวสำคัญอีกที่ในประเทศเวียดนามที่กิตติศัพท์ดังไปทั้งโลก ซึ่งนักท่องเที่ยวทุกคนไม่ควรพลาดชม โดยตรงนี้ได้รับการประกาศเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติจากองค์กรยูเนสโกเนื่องจากว่ามีความสวยของธรรมชาติมากไม่น้อยเลยทีเดียว

ฮาลองเบย์ เป็นอ่าวแห่งหนึ่งในพื้นที่ของอ่าวตังเกี๋ย เมืองฮาทดลองตั้งอยู่ทางตอนเหนือของสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม อยู่ในเขตพื้นที่จังหวัดกว่างนิงห์ ไม่ไกลจากกรุงฮานอยเมืองหลวง โดยห่างออกไปทางทิศตะวันออกประมาณ 170 กิโลเมตร และอยู่ใกล้กับเมืองจีน ฮาลองเบย์ มีพื้นที่ทั้งหมดทั้งปวง 1,500 ตารางกิโลเมตร มีชายฝั่งยาว 120 กิโล มีเกาะหินปูนจำนวน 1,969 เกาะโผล่พ้นขึ้นมาจากผิวทะเล บนยอดของแต่ละเกาะมีต้นไม้ขึ้นอยู่อย่างหนาแน่น หลายเกาะมีถ้ำขนาดใหญ่ที่มีความสวยงามซุกซ่อนอยู่

สำหรับประวัติความเป็นมา ฮาลองเบย์ มีชื่อตามการออกเสียงในภาษาเวียดนามว่า Vinh Ha Long หมายถึง อ่าวมังกรผู้ดำตรง ตามตำนานราษฎรเวียดนามบอกเล่ากันว่า ในอดีตที่ชาวเวียดนามกำลังสู้รบกับจีน เทวดาได้ส่งกองทัพมังกรลงมาช่วยเหลือ ซึ่งต่อมามังกรเหล่านี้ได้ดำดิ่งลงสู่ทะเลรอบๆอ่าวฮาลอง ทำให้มีเพชรนิลจินดาและหชูพุ่งกระเด็นออกมาแปลงเป็นเกาะแก่งน้อยใหญ่กระจายตัวเป็นเกราะคุ้มครองผู้รุกราน รวมทั้งบางตำนานกล่าวถึงสัตว์โบราณที่ชื่อว่า Tarasque ซึ่งมั่นใจว่าอาศัยอยู่ที่บริเวณตูดอ่าว

4.เที่ยวเมืองซาขว้าง ที่นาข้าวบนเขา (Sa Pa)
ซาขว้าง คือเมืองท่องเที่ยวที่มีเสน่ห์สูงที่สุดเมืองหนึ่งของประเทศเวียดนาม ด้วยตำแหน่งที่ตั้งอันสวยงามที่กลุ้มรุมไปด้วยแนวเขาจนได้ชื่อว่าเป็นเมืองหลังคาโลกอินโดจีน ส่วนอากาศหนาวเย็นแทบตลอดปีทำให้รุ่งแจ้งของที่นี่มีไอหมอกปกคลุมสวยงาม ในแต่ละปี ซาขว้าง จึงยั่วยวนใจนักเดินทางจากทั้งโลกให้แวะเวียนมาท่องเที่ยวได้จำนวนมาก

ในส่วนของประวัติความเป็นมา ซาขว้าง เป็นเมืองเล็กๆที่นักเดินทางฝรั่งเริ่มเดินทางมาพักผ่อนตั้งแต่ยุคที่ฝรั่งเศสยังปกครองประเทศเวียดนาม โดยชาวตะวันตกติดอกติดใจตรงนี้เนื่องจากอากาศดีแล้วก็สงบเงียบ ถัดมาซาปาจึงเป็นที่รู้จักรวมทั้งได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้นจนกระทั่งมีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมหลายหมื่นคนต่อปี


5.ท่องเที่ยวหมุยแหน ภูเขาทรายสองสี (The Sand Dunes of Mui Ne)
นักเดินทางที่เดินทางมายังที่ที่นี้รับประกันได้เลยว่าจะได้สัมผัสถึงบรรยากาศที่ใกล้เคียงกับทะเลทรายด้วยเหตุว่าภูเขาทรายที่หมุยแหนหรือที่คนไม่ใช่น้อยคุ้นเคยกับสำเนียง "มุยเน่" นั้น มีขนาดใหญ่แล้วก็อยู่ติดกับริมฝั่ง จึงมีแดดและลมที่แรงมากทีเดียว ที่นี่มีเนินทรายอยู่ 2 ที่ คือ ภูเขาทรายขาวและก็เทือกเขาทรายแดง ซึ่งเทือกเขาทรายขาวนั้นมีอีกชื่อเรียกหนึ่งว่า Bau Trang และก็มีห้องอาหารขนาดเล็กเปิดบริการสำหรับนักเดินทางด้วยสำหรับภูเขาทรายแดงแม้ว่าจะมีขนาดเล็กกว่า แต่เป็นที่นิยมมากกว่าในสายตาของช่างถายภาพ เหตุเพราะสีทรายมีสีแดงเข้ม ถ่ายภาพออกมาแล้วสีสวยกว่าที่ภูเขาทรายขาว ส่วนกิจกรรมยอดฮิต คือ การเล่นกระดานเลื่อนบนเนินทรายสูงลงมาข้างล่างซึ่งวัสดุอุปกรณ์สำหรับเล่นนั้นสามารถหาเช่าได้จากร้านที่ตั้งอยู่ใกล้ๆเทือกเขาทราย

ข้อมูลเพิ่มเติม : เปิดให้บริการตลอดทั้งปี แต่ขณะที่ดีที่สุดสำหรับการมาเที่ยวเป็น ช่วงเช้าหรือไม่ก็ตอนเวลาเย็น เนื่องจากว่าตอนกลางวันถึงตอนเวลาบ่ายนั้นอากาศรวมทั้งแดดจัดมากมาย
เป็นไงบ้างคะ สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวเด็ดๆโดนๆในประเทศเวียดนาม มีทั้งสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติและก็ประวัติศาสตร์ เรียกได้ว่ามาเวียดนามทั้งทีได้สำรวจท่องเที่ยวอย่างครบรสแน่ๆ ส่วนระยะทางก็ใกล้นิดเดียว รวมถึงค่ายังชีพก็ไม่แพงอีกด้วยจ้ะ

ภูเขาทรายสองสีที่หมุยแหน นักท่องเที่ยวที่เดินทางมายังที่แห่งนี้รับรองได้เลยว่าจะได้สัมผัสถึงบรรยากาศที่ใกล้เคียงกับทะเลทราย เนื่องจากว่าเทือกเขาทรายที่หมุยแหนหรือที่หลายท่านคุ้นเคยกับสำเนียง "มุยเน่" นั้น มีขนาดใหญ่รวมทั้งอยู่ใกล้กับชายทะเล จึงมีแดดรวมทั้งลมที่แรงมากมายทีเดียว ตรงนี้มีเนินทรายอยู่ 2 ที่ คือ ภูเขาทรายขาวและภูเขาทรายแดง ซึ่งเทือกเขาทรายขาวนั้นมีอีกชื่อเรียกหนึ่งว่า Bau Trang และก็มีห้องอาหารขนาดเล็กเปิดบริการสำหรับนักเดินทางด้วย สำหรับภูเขาทรายแดงแม้ว่าจะมีขนาดเล็กกว่า แต่เป็นที่นิยมมากกว่าในสายตาของตากล้อง เพราะสีทรายมีสีแดงเข้ม ถ่ายรูปออกมาแล้วสีสวยกว่าที่เทือกเขาทรายขาว ส่วนกิจกรรมยอดฮิต คือ การเล่นบอร์ดเลื่อนบนเนินทรายสูงลงมาด้านล่าง ซึ่งวัสดุอุปกรณ์สำหรับเล่นนั้นสามารถหาเช่าได้จากร้านที่ตั้งอยู่ใกล้ๆเทือกเขาทราย

ข้อมูลเพิ่มเติม : เปิดให้บริการตลอดทั้งปี แม้กระนั้นช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมสำหรับเพื่อการมาท่องเที่ยวหมายถึงช่วงเวลาเช้าหรือไม่ก็เวลาเย็นเนื่องจากช่วงเวลากลางวันถึงตอนเวลาบ่ายนั้นอากาศรวมทั้งแดดจัดมากมาย
เป็นยังไงบ้างขา สำหรับสถานที่เที่ยวเด็ดๆโดนๆในประเทศเวียดนาม มีอีกทั้งสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติแล้วก็ประวัติศาสตร์ เรียกได้ว่ามาเวียดนามทั้งทีได้สำรวจท่องเที่ยวอย่างครบรสแน่นอน ส่วนระยะทางก็ใกล้นิดเดียว รวมทั้งค่ายังชีพก็ไม่แพงอีกด้วย

คำค้นหาที่เกี่ยวข้อง : ทัวร์เวียดนาม

ความคิดเห็น